วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

การพิสูจน์ที่มาของรายได้ในธุรกิจเครือข่าย

ที่มาของรายได้ในธุรกิจเครือข่าย
ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำธุรกิจอะไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ธุรกิจเครือข่ายเท่า นั้น เราต้องรู้แหล่งที่มาของรายได้ที่เราจะได้รับให้ชัดเจนก่อนถึงจะลงมือ และลงทุนได้ ถ้าทำลงทุนไปโดยที่ไม่รู้เลยว่า แหล่งที่มาของรายได้ของเรา อยู่ที่ไหน ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาเงินไปโยนทิ้ง

การพิสูจน์ที่มาของรายได้ในธุรกิจเครือข่าย

ถ้าเราไม่ใส่ใจว่า ธุรกิจเครือข่ายนั้น ๆ ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าประเภทไหน ไม่ว่าจะ อุปโภค-บริโภค, อาหารเสริม, เครื่องสำอาง, หรือแม้กระทั่ง ปุ๋ย เป็นต้น การที่มีลูกค้าซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม โดยปกติแล้วธุรกิจเครือข่ายจะต้องมี ระบบจัดเก็บข้อมูลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้
การเก็บข้อมูลตรงนี้จะเป็นตัวบอกว่า ในเดือนหนึ่ง ๆ ที่ผ่านไปใครซื้อสินค้า หรือขายสินค้ามากน้อยแค่ไหน และปันผลคืนให้ในรูปแบบของสหกรณ์ในโรงเรียนตอนเด็ก ๆ นั้นล่ะครับ ซื้อเยอะก็ได้คืนเยอะ ซื้อน้อยก็ได้คืนน้อย ก่อนที่จะเป็นธุรกิจเครือข่าย ก็คือสหกรณ์นั่นเอง
เมื่อธุรกิจที่มีลักษณะของสหกรณ์ มันไม่แฟร์ตรงที่ เราอุตส่าห์ไปบอกเพื่อน ให้มาซื้อของที่นี้แล้วได้เงินคืน ทำไมเราไม่ได้อะไรกลับมาบ้างน้า ก็เราเป็นคนโฆษณาให้ชัด ๆ รู้ไหมว่าสหกรณ์ของคนเติบโตขึ้นได้เพราะ เรานะเนี่ย….
นี่ล่ะครับธุรกิจเครือข่ายคือ คำตอบ
ในธุรกิจเครือข่ายจะต้องมี ระบบที่คอยจดจำให้เราว่า เราชักชวนหรือแนะนำ สินค้าให้ใครบ้าง เราไปบอกให้ใครมาซื้อบ้าง ซึ่งยิ่งบอกเยอะคนซื้อก็เยอะขึ้น มากขึ้นเรื่อย ๆ จนเรียกว่า องค์กรหรือเครือข่าย
อัตราการบริโภคหรือใช้สินค้า ผ่านการแนะนำของเราและองค์กร ถือว่าเราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตรงนี้ เพราะ ถ้าเราไม่บอกไม่แนะนำก็ไม่มีคนมาซื้อของจากบริษัทคุณหรอกนะ ตรงนี้เองที่บริษัทธุรกิจเครือข่าย เค้าสำนึกในบุญคุณของเรา จึงผลปันเป็นรายได้ให้กับเรานั้นเอง
ตรงนี้เองที่เอาไว้พิสูจน์แหล่งที่มาของรายได้ในธุรกิจเครือข่ายต่าง ๆ คราวนี้เราก็ต้องมาดูอีกว่า บริษัทไหนปันผลให้กับเราหรือสมาชิกอย่างไรบ้าง

ลักษณะการปันผลในธุรกิจเครือข่าย

ทุก ๆ ธุรกิจเครือข่ายจะปันผลในกับลูกค้าและองค์กรของเค้าผ่านทางข้อกำหนดของ แผนการตลาด นั้นเอง ที่เค้าเรียก ๆ กันว่า แผนฉันดีอย่างนั้น อย่างนี้ อย่าไปเสียเวลาเอา แผนการตลาดของเราไปทะเลาะกับแผนการตลาดของคนอื่นเลยครับ แต่ล่ะแผนสร้างให้มีคนที่ประสบความสำเร็จ กันแล้วทั้งนั้น
แผนการตลาด เป็นข้อกำหนดที่บอกว่าเราและองค์กรมียอดใช้สินค้าเท่าไหร่ แล้วจะปันผลเป็นกี่ % ( เปอร์เซ็น )
คนที่ไม่เข้าใจลักษณะแผนการตลาดแบบนี้มักจะมองว่า
ธุรกิจเครือข่าย => แชร์ลูกโซ่ => กินหัวคิว => ธุรกิจน่ารังเกียจ
มองแบบนี้บอกได้ว่าเค้าไม่เข้าใจ รูปแบบการดำเนินธุรกิจในแบบที่ผมอธิบายไปข้างต้น ยังไม่อีกหลากหลายเหตุผลที่เราสามารถยกขึ้นมาเป็นปัจจัยสนับสนุนในเข้าใจมาก ขึ้นได้อีก
อีกข้อหนึ่งที่เราต้องยอมรับว่า ธุรกิจเครือข่ายนี้ ทำให้คนประสบความสำเร็จเป็นหลักหลายล้านคนทั่วโลกมาแล้วก็ว่าได้ ผลิกจากชีวิตที่ไม่มีอะไรเลย กลับกลายเป็นเศรษฐีได้ แต่อีกแง่หนึ่งก็มีอีกหลายคนที่ต้องเจ็บตัวกับธุรกิจเครือข่าย เช่นกัน